(43) และเรามิได้ส่งผู้ใดมาก่อนหน้าเจ้า นอกจากเป็นผู้ชายที่เราได้วะฮีแก่พวกเขา ดังนั้น พวกเจ้าจงถามบรรดาผู้รู้ หากพวกเจ้าไม่รู้
(44) ด้วยหลักฐานทั้งหลายที่ชัดแจ้ง และคัมภีร์ต่างๆ ที่ศักดิ์สิทธิ์ และเราได้ให้อัลกุรอานแก่เจ้าเพื่อเจ้าจะได้ชี้แจง(ให้กระจ่าง)แก่มนุษย์ซึ่งสิ่งที่ได้ถูกประทานมาแก่พวกเขา และเพื่อพวกเขาจะได้ไตร่ตรอง
(45) บรรดาผู้วางแผนชั่วร้ายทั้งหลายจะปลอดภัยกระนั้นหรือ จากการที่อัลลอฮ์จะทรงให้ธรณีสูบพวกเขา หรือการลงโทษที่จะมาหาพวกเขาโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว
(46) หรือพระองค์จะทรงคร่าชีวิตพวกเขาขณะที่พวกเขาเดินทาง ดังนั้น พวกเขาจะไม่สามารถหักห้าม(พระองค์)ได้
(47) หรือพระองค์พวกเขาให้ตายทีละน้อย ดังนั้น แท้จริงพระเจ้าของพวกเจ้านั้น แน่นอนเป็นผู้ทรงเอ็นดู ผู้ทรงเมตตาเสมอ
(48) และพวกเขามิได้มองไปยังสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงสร้าง บ้างดอกหรือว่า เงาของมันจะทอดไปทางขวาและทางซ้าย เพื่อสุญูดต่ออัลลอฮ์โดยที่พวกมันนอบน้อม
(49) และสิงที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน ที่เป็นสัตว์โลกทั้งหลายและมะลาอิกะฮ์จะสุญูดต่ออัลลอฮ์ โดยที่พวกมันจะไม่หยิ่งผยอง
(50) พวกเขาจะกลัวพระเจ้าของพวกเขา ผู้ทรงอำนาจเหนือพวกเจ้า ปฏิบัติตามสิ่งที่พวกเขาถูกบัญชา
(51) และอัลลอฮ์ตรัสว่า “พวกเจ้าอย่ายึดถือพระเจ้าสององค์ แท้จริงพระองค์คือพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวเท่านั้น ดังนั้น เฉพาะข้าเท่านั้นที่พวกเจ้าต้องเกรงกลัว"
(52) และเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และการภักดีต่อพระองค์เท่านั้นจำเป็นต้องมีประจำ ดังนั้นพวกเจ้าจะยำเกรงผู้ใดอื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ?
(53) และไม่มีความโปรดปรานใด ๆ ที่พวกเจ้าได้รับ นอกจากมันย่อมมาจากอัลลอฮ์ ดังนั้น เมื่อความทุกข์ร้ายประสบแก่พวกเจ้า พวกเข้าก็จะคร่ำครวญขอพรต่อพระองค์
(54) แล้วเมื่อพระองค์ทรงปลดเปลื้องความทุกข์ยากออกจากพวกเจ้า ขณะนั้นกลุ่มหนึ่งจากพวกเจ้าก็จะตั้งภาคีต่อพระเจ้าของพวกเขา