(50) จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “หากพวกท่านเป็นหินหรือเหล็ก”
(51) ”หรือกำเนิดใดจากที่แข็งยิ่งในหัวอกของพวกท่านก็ตาม” ดังนั้นพวกเขาจะกล่าวว่า “ผู้ใดเล่าจะให้เรากลับขึ้นมาอีก ?”จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด“พระองค์ผู้ทรงบังเกิดพวกท่านเป็นครั้งแรก” แล้วพวกเขาก็สั่นศีรษะของพวกเขาแก่เจ้าพลางกล่าวว่า“เมื่อใดเล่า ?” จงกล่าวเถิดมุฮัมหมัด “หวังว่ามันใกล้เข้ามาแล้ว”
(52) วันที่พระองค์จะทรงเรียกร้องพวกเจ้าและพวกเจ้าจะตอบสนองด้วยการสรรเสริญพระองค์และพวกเจ้าจะนึกว่ามิได้อยู่ (ในโลกนี้) เว้นแต่เพียงชั่วครู่เท่านั้น
(53) และจงกล่าวแก่ปวงบ่าวของข้าที่พวกเขากล่าวแต่คำพูดที่ดียิ่งว่า แท้จริงชัยฏอนนั้นมันยุแหย่ระหว่างพวกเขา แท้จริงชัยฏอนนั้นเป็นศัตรูที่เปิดเผยของมนุษย์
(54) พระเจ้าของพวกเจ้าทรงรู้จักพวกเจ้าดียิ่ง หากพระองค์ทรงประสงค์พระองค์ก็จะทรงเมตตาพวกเจ้า หรือหากพระองค์ทรงประสงค์พระองค์ก็จะทรงลงโทษพวกเจ้า และเรามิได้ส่งเจ้ามาเป็นผู้คุ้มครองพวกเขาแต่ประการใด
(55) และพระเจ้าของเจ้าทรงรู้ดียิ่งถึงสิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และโดยแน่นอนเราได้เลือกนะบีบางคนให้ดีเด่นกว่าอีกบางคน และเราได้ให้ซะบูรแก่ดาวูด
(56) จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “พวกท่านจงเรียกร้องบรรดาสิ่งที่พวกท่านกล่าวอ้างอื่นจากพระองค์4 พวกมันไม่มีอำนาจที่จะปลดเปลื้องความทุกข์ยากและเปลี่ยนแปลงมันจากพวกท่านได้”
(57) เหล่านั้นที่พวกเขาวิงวอนนั้น พวกมันก็ยังหวังที่จะหาทางเข้าสู่พระเจ้าของพวกมันว่า ผู้ใดในหมู่พวกมันจะเข้าใกล้ที่สุดและพวกมันยังหวังในความเมตตาของพระองค์ และกลัวการลงโทษของพระองค์ แท้จริงการลงโทษของพระเจ้าของเจ้านั้นควรน่าระวัง
(58) และไม่มีหมู่บ้านใดเว้นแต่เราเป็นผู้ทำลายมันก่อนถึงวันกิยามะฮ หรือเป็นผู้ลงโทษมันด้วยการลงโทษอย่างสาหัส นั่นมันได้ถูกบันทึกไว้แล้วในบันทึก