(41) “พวกเจ้าจงออกไปกันเถิด ทั้งผู้ที่มีสภาพว่องไว และผู้ที่มีสภาพเชื่องช้า และจงเสียสละทั้งด้วยทรัพย์ของพวกเจ้า แลเชีวิตของพวกเจ้าในทางของอัลลอฮ์ นั่นแหละคือสิ่งที่ดียิ่งสำหรับพวกเจ้า หากพวกเจ้ารู้”
(42) “หากมัน เป็นผลได้อันใกล้ และเป็นการเป็นทางที่สะดวกและใกล้แล้วไซร้ แน่นอนพวกเขา ก็ปฏิบัติตามเจ้าแล้ว แต่ทว่าระยะทาง อันลำบากนั้นไกลแก่พวกเขา และพวกเขาจะสาบานต่ออัลลอฮ์ ว่า ถ้าหากพวกเราสามารถแล้ว แน่นอนพวกเราก็ออกไปกับพวกท่านแล้ว พวกเขากำลังทำลายชีวิตของพวกเขาเอง และอัลลอฮ์นั้นทรงรู้ว่าแท้จริงพวกเขานั้นเป็นผู้กล่าวเท็จ”
(43) “อัลลอฮ์นั้นได้ทรงอภัยโทษให้แก่เจ้า แล้วเพราะเหตุใดเล่าเจ้าจึงอนุมัติให้แก่พวกเขา จนกว่าจะได้ประจักษ์แก่เจ้าก่อน ซึ่งบรรดาผู้ที่พูดจริง และจนกว่าเจ้าจะได้รู้บรรดาผู้ที่กล่าวเท็จ”
(44) “บรรดาผู้ทีศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และวันปรโลกนั้นจะไม่ขออนุมัติต่อเจ้าในการที่พวกเขาจะเสียสละทั้งด้วยทรัพย์ของพวกเขา และชีวิตของพวกเขา และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้ต่อบรรดาผู้ที่ยำเกรง”
(45) “แท้จริงที่จะขออนุมัติต่อเจ้านั้นคือบรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และวันปรโลกและหัวใจของพวกเขาสงสัยเท่านั้น แล้วในการสงสัยของพวกเขานั้นเอง พวกเขาจึงลังเลใจ”
(46) “และหากพวกเขาต้องการออกไป แน่นอนพวกเขาต้องเตรียมสัมภาระ สำหรับการออกไปนั้นแล้ว แต่ทว่าอัลลอฮ์ทรงเกลียดการออกไปของพวกเขาพระองค์จึงได้ทรงกีดขวาง พวกเขาไว้ และได้ถูกกล่าวว่า ท่านทั้งหลายจงนั่งอยู่กับผู้ที่นั่งทั้งหลาย เถิด”
(47) “หากว่าพวกเขาออกไปในหมู่พวกเจ้าแล้วก็ไม่มีอะไรเพิ่มแก่พวกเจ้า นอกจากความเสียหาย เท่านั้น และแน่นอนพวกเขาก็ย่อมฉวยโอกาสยุแหย่ระหว่างพวกเจ้าโดยปรารถนาให้เกิดความวุ่นวายแก่พวกเจ้า และในหมู่พวกเจ้านั้นก็มีพวกที่รับฟังพวกเขาอยู่ และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้ในผู้อธรรมทั้งหลาย”